Published on 11 สิงหาคม 2024 , 9:24 am
Wellness คำคุ้นหูที่เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่า Wellness คืออะไร วันนี้ Iwelty ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักความหมายอย่างลึกซึ้ง รวมถึงมาไขข้อข้องใจว่าทำไมคนเราในปัจจุบันต้องมีสุขภาพดีแบบฉบับ Wellness
Wellness คืออะไร?
Wellness คือ การมีสุขภาวะที่ดีซึ่งไม่ใช่แค่การปราศจากโรคหรือความพิการ แต่หมายถึงการมุ่งเน้นไปที่การป้องกันก่อนการเกิดโรคและมีการปรับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่มาดูแลควบคู่กันไปด้วยแบบครบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็น การมีสุขภาพกายที่แข็งแรง จิตใจแจ่มใส อารมณ์มั่นคง มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น สังคม และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังหมายถึงการช่วยลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อีกด้วย
มีสุขภาพที่ดีแบบ Wellness จะต้องดูแลด้านไหนบ้าง?
- สุขภาพกาย (Physical Wellbeing) : การมีสุขภาพร่างกายที่ดี หมายถึง การมีร่างกายที่แข็งแรง ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างปกติ สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถมีสุขภาพที่ดีได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- สุขภาพจิต (Mental Wellbeing) : การมีสุขภาพจิตที่ดี หมายถึง การมีจิตใจที่สงบ มั่นคง คิดบวก สามารถจัดการกับความเครียดได้ ซึ่งเราสามารถทำได้ด้วยการฝึกนั่งสมาธิ หากิจกรรมที่ผ่อนคลาย หรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ อย่างการอ่านหนังสือ เล่นดนตรี วาดภาพ ฟังเพลง เป็นต้น
- สุขภาพอารมณ์ (Emotional well-being) : การมีสุขภาพอารมณ์ที่ดี หมายถึง การที่เราจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ดี ความคุมอารมณ์ได้ ไม่เครียด และรู้สึกผ่อนคลาย โดยสามารถทำได้ด้วยการฝึกโยคะ ฝึกการคิดบวกอยู่เสมอๆ
- สุขภาพสังคม (Social Wellbeing) : การมีสุขภาพสังคมที่ดี หมายถึง การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น สังคม สิ่งแวดล้อม และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นในสังคม ซึ่งเราสามารถทำได้ด้วยการออกไปใช้เวลากับครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่เข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือผู้อื่น
- สุขภาพปัญญา (Intellectual well-being) : การมีสุขภาพปัญญาที่ดี หมายถึง การมีปัญญาที่ดี มีการเรียนรู้อยู่เสมอ มองโลกกว้างขึ้น เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งเราสามารถทำได้โดยการออกไปหาสิ่งใหม่ๆ ทำกิจกรรมพักผ่อนอย่างการอ่านหนังสือ เดินทางออกไปเที่ยว
การดูแลสุขภาพแบบ Wellness แตกต่างกับ การรักษา และ การดูแลสุขภาพแบบดั้งเดิมในโรงพยาบาลทั่วไป อย่างไร?
- การดูแลสุขภาพแบบ Wellness คือ มุ่งเน้นไปที่การป้องกันโรคมากกว่าการรักษา ส่งเสริมสุขภาพให้ดีทั้งกาย จิต และอารมณ์ เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น Wellness จึงเป็นการดูแลสุขภาพในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่องและเป็นการผนวกการดูแลสุขภาพเข้าสู่ชีวิตประจำวันในทุกๆ เพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
- การดูแลสุขภาพแบบดั้งเดิม คือ วิธีการที่มุ่งเน้นการรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา การผ่าตัด หรือวิธีทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อให้อาการของโรคนั้นหายไป
ข้อดีของการดูแลสุขภาพเชิง Wellness
การดูแลสุขภาพ Wellness นอกจากหมายถึงการดูแลสุขภาพให้ดีครบองค์แล้ว ยังหมายถึงการป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้อีก เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) สูงถึง 75% คิดเป็นจำนวน 320,000 คนต่อปี ซึ่งสาเหตุเกิดจากการพฤติกรรมการใช้ชีวิต สภาพแวดล้อมที่ผิดสุขลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทานอาหารที่ไม่ดี พักผ่อนไม่เพียงพอ อยู่ในภาวะเครียด ดังนั้นการดูแลสุขภาพเชิง Wellness จึงเป็นการดูแลสุขภาพที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยในการแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า Wellness สามารถช่วยป้องกันการเจ็บป่วย และในบางกรณีสามารถหยุดอาการเรื้อรังของโรคไม่ติดต่อบางชนิดได้ เพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน
Wellness เหมาะกับใคร หรือคนกลุ่มไหนเป็นพิเศษ?
การดูแลสุขภาพเชิง Wellness เหมาะกับทุกเพศ เนื่องจากในแต่ละวัยจะมีปัญหาสุขภาพไม่เหมือนกัน ดังนี้ ทุกวัย โดยในแต่ละวัยจะดูแลสุขภาพเชิง Wellness แตกต่างกัน ดังนี้
- วัยเด็ก มักจะมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ การขาดวิตามิน ดังนั้นจะต้องเน้นทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อน
- วัยทำงาน มักจะมีปัญหาเรื่องการดูแลสมองและความสดชื่น ดังนั้นจะต้องเน้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การจัดการความเครียดด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกายเน้นทานอาหารที่มีประโยชน์
- วัยกลางคน เป็นต้นไป มักจะมีปัญหาเรื่องความเสื่อมของร่างกาย ดังนั้นจะต้องเน้นการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
หากคนทั่วไป อยากเริ่มดูแลสุขภาพเชิง Wellness จะเริ่มอย่างไร?
เมื่อเราเข้าใจความหมายของ Wellness แล้วจะเห็นได้ว่าการดูแลสุขภาพเชิง Wellness ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว หรือทำได้ยากเลย แต่กลับเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การเล่นโยคะ การผ่อนคลายด้วยกิจกรรมต่างๆ การนั่งสมาธิ และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีชีวิตยืนยาวแบบมีคุณภาพ
เมื่อเราเข้าใจในความหมายของ Wellness แล้ว ดังนั้นการดูแลตัวเองเชิง Wellness ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ใกล้ตัว และสามารถทำได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เพราะเราเชื่อว่าการเริ่มต้นดูแลตัวเอง คือก้าวแรกของความสุขที่ยืนยาว
Comment :