Published on 13 สิงหาคม 2024 , 10:16 am
หากเอ่ยถึง คราม เชื่อว่าคงมีหลายคนที่นึกถึงสิ่งที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าหากเอ่ยว่า ผ้าย้อมคราม แน่นอนว่าคนไทยจะต้องร้อง อ๋อ ออกมาอย่างแน่นอน ซึ่งผ้าย้อมครามถือว่าเป็นสิ่งทอที่อยู่คู่ของคนไทยมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นสินค้าที่มาจากภูมิปัญญาของไทย อีกทั้งครามยังนิยมใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงคุณติงลี่ คมกฤช ภู่ทอง เจ้าของแบรนด์ Kharmer ที่ได้เห็นความสำคัญและประโยชน์จากคราม จนนำไปสู่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และสินค้าอื่นๆ ที่ทำมาจากรากคราม
ต้นกำเนิดจาก Kharmer มาจากการอยากให้สินค้าของไทยออกสู่ตลาดโลก
เดิมทีคุณติงลี่ คมกฤช ภู่ทอง ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่ได้มีโอกาสมาศึกษาต่อในภาคอีสานในหลักสูตรเภสัชกรรมแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเมื่อได้อาศัยอยู่ไปเรื่อยๆ พบว่าสินค้าไทยมีความหลากหลาย เลยได้มองหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถไปต่อยอดได้ เลยได้ลองคิดค้นและค้นหาว่าสิ่งใดที่มีศักยภาพมากพอ สิ่งที่ในท้องตลาดยังไม่มี รวมถึงมีความแปลกใหม่จากเดิม ซึ่งเมื่อได้ลงพื้นที่ก็ค้นพบว่าคราม เป็นพืชที่มีประโยชน์ตั้งแต่รากจนถึงใบ ซึ่งในตลาดสากล ครามถือว่ามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศอินเดีย ที่ใช้รากครามในการทำยารักษาแผลในกระเพาะอาหาร ประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ดอกครามมาสกัดเป็นครีมบำรุงผิว รวมถึงประเทศฝรั่งเศสที่ใช้ใบครามแก่มาทำเป็นสารสกัด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ของ Kharmer ในปัจจุบัน
Kharmer กับ การกระจายรายได้สู่ชุมชน
เมื่อค้นพบว่าครามมีประโยชน์มากกว่าที่คิด และมีสรรพคุณหลากหลายอย่าง ทำให้คุณติงลี่ได้เข้าไปลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับเกษตรกรในชุมชน ในจังหวัดสกลนคร เนื่องจากเห็นว่าสกลนครเป็นพื้นที่ที่มีเชื่อเสียงในเรื่องของต้นคราม ซึ่งความตั้งใจเดิมคือคุณติงลี่ไม่ต้องการเป็นคู่แข่ง หรือแย่งพื้นที่รายได้กับชาวบ้าน รวมถึงไม่ต้องการให้ชาวบ้านไปเพิ่มต้นทุนในการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก จึงได้มองหาสิ่งที่ชาวบ้านไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ และพบว่าเมื่อชาวบ้านนำครามมาย้อมผ้า จะทิ้งรากครามไว้เป็นขยะ ซึ่งคุณติงลี่เล็งเห็นว่ารากครามนั้นสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่าถูกนำไปทิ้ง และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนอีกด้วย
Kharmer กับ ความเชื่อของคนไทย
จากการศึกษาไปเรื่อย ๆ คุณติงลี่ค้นพบว่า ผ้าย้อมครามเป็นสิ่งทอที่ช่วยถนอมผิวเราอย่างมาก ซึ่งเชื่อมโยงไปยังความเชื่อของคนสมัยก่อนที่มักจะนำต้นครามมาเป็นเครื่องนุ่งห่มให้กับเด็กทารกแรกเกิด เพื่อปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย หรือแม้กระทั่งนำต้นครามมาต้มเป็นยารักษาอาการบาดเจ็บ แต่ในปัจจุบันปัญหาของคนรุ่นใหม่มองว่าการใส่ผ้าย้อมครามเป็นสิ่งที่เก่าแก่ และโบราณ ทำให้คุณติงลี่ได้นำโจทย์นี้มาตั้งคำถามว่าจะนำรากครามมาเชื่อมโยงกับคนในสังคมในเมืองอย่างไร จึงได้เกิดมาเป็น เซรั่ม และสกินแคร์ที่คอยปกป้องแสงแดด และถนอมผิว เนื่องจากพบว่าครามมีคุณสมบัติในเรื่องของการป้องกันแสง UV ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
Kharmer กับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยถนอมผิวและร่างกาย ที่นำไปสู่ความยั่งยืน
ปัจจุบัน แบรนด์ Kharmer ได้ออกผลิตภัณฑ์มาทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์ โดยทั้งหมดล้วนทำมาจากต้นครามทั้งหมด
Indigo Root Extract Facial Serum (ราคา 1,650.-) ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากรากคราม ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการปกป้องผิว และถนอมผิว
Indigo Root Extract Facial Sunscreen SPF50 PA++++ (ราคา 850.-) ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยถนอมผิวและปกป้องผิวจากแสงแดด UV
Natural Indigo Dyed Towels (ราคา 450.-) ผ้าเช็ดตัวที่ถูกย้อมด้วยสีครามธรรมชาติที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งความพิเศษคือผ้าเช็ดตัวย้อมครามสามารถตากได้ในพื้นที่ร่ม และไม่เกิดกลิ่นเหม็นอับ
Natural Indigo Salts (ราคา 280.-) เกลือคราม ที่ผลิตจากเกลือสินเธาว์ ช่วยนวดฝ่าเท้า และแช่เท้าให้รู้สึกผ่อนคลาย และบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ทั้งหมดนี้คือ แบรนด์ Kharmer ที่คุณติงลี่ได้มองเห็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ และนำมาสร้างมูลค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งยังเป็นสิ่งที่ช่วยในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน นอกจากนี้ยังเพื่อให้คนตระหนักว่าธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรานั้นสามารถทำเป็นประโยชน์ได้อย่างมหาศาล และเป็นสิ่งที่เราพบเจอและผูกพันมาตั้งแต่เกิด โดยในปัจจุบันตอนนี้ทางแบรนด์ได้เปิดขายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น
Khramer
เว็บไซต์ : www.khramer.com
Facebook : KHRAMER
ภาพ : Khramer
เขียน : Iwelty
Comment :