Published on 29 เมษายน 2025 , 8:38 pm

เบอร์เกอร์จิ้งหรีด Bounce Burger จุดนัดพบใหม่แห่งวงการอาหารยั่งยืน 

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ยกย่องจิ้งหรีดให้เป็นแหล่งโปรตีนจากสัตว์ที่มีประสิทธิภาพสูงและยั่งยืน เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีโปรตีนคุณภาพเทียบเท่ากับเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ และปลา แต่ให้โปรตีนสูงกว่า 70% และอุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็นอื่นๆ ที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้ เช่น กรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด กรดไขมันโอเมกา 3 และ 6 วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร

นอกจากนี้ การเลี้ยงจิ้งหรีดไม่จำเป็นต้องใช้สารปฏิชีวนะหรือสารเร่งการเจริญเติบโต เหมือนการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น จิ้งหรีดมีจุดเด่นคือ มีช่วงอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ใช้ทรัพยากรในการเลี้ยงน้อย ช่วยลดภาวะโลกร้อน ผลิตภัณฑ์จากจิ้งหรีดที่กำลังเป็นที่นิยม ได้แก่ จิ้งหรีดอบแห้ง จิ้งหรีดบดเป็นผง และจิ้งหรีดแช่แข็ง

จุดเริ่มต้นของ Bounce Burger

Bounce Burger เป็นร้านเบอร์เกอร์ลับๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยปรีดี พนมยงค์ 26 กรุงเทพฯ โดยมี ‘อาร์ต-ภูริภัทร์ เธียไพรัตน์’ เจ้าของร้านผู้คร่ำหวอดอยู่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด อยากเผยแพร่การกินจิ้งหรีดให้ผู้คนได้รู้จักและบริโภคได้ง่ายขึ้น จึงเกิดเป็นร้านเบอร์เกอร์ที่ใช้จิ้งหรีดเป็นส่วนประกอบหลัก

จิ้งหรีด…Superfood แห่งอนาคต

จิ้งหรีดถือเป็น “Superfood” หรือวัตถุดิบอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีโปรตีนสูง กรดอะมิโนครบ 20 ชนิด วิตามินบี 2 และบี 12 พรีไบโอติกและไฟเบอร์ อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “Superfood แห่งอนาคต” เนื่องจากการเพาะเลี้ยงใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการผลิตโปรตีนจากเนื้อสัตว์อย่างมาก

“เขาไม่ได้มีแค่โปรตีนอย่างเดียว มีไฟเบอร์ที่เป็นพรีไบโอติกด้วย มีแร่ธาตุต่าง ๆ ค่อนข้างสูง มีวิตามิน B2 B12 เยอะมาก และโอเมก้า 69 ที่ค่อนข้างสูง  มีแหล่งโปรตีนที่ครบในแหล่ง ๆ เดียว เลยถูกเรียกว่า Super Food”

“1 ชิ้นเบอร์เกอร์ จะได้โปรตีนประมาณ 40 กรัม โดยทั่วไป ผงจิ้งหรีด 100 กรัม  จะมีโปรตีน 70 กรัม ส่วนตัวจริ้งหรีด 100 กรัม จะมีโปรตีนประมาณ  30 กรัม” 

การบริโภคจิ้งหรีดช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะก๊าซมีเทนได้มากถึง 17 เท่า เมื่อเทียบกับการผลิตโปรตีนจากเนื้อวัวในปริมาณเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น การเลี้ยงจิ้งหรีดใช้พื้นที่น้อยกว่า 10 เท่า ใช้อาหารน้อยกว่า 22 เท่า และใช้น้ำน้อยกว่า 13-14 เท่า เมื่อเทียบกับการเลี้ยงวัว

“คำว่า แห่งอนาคต จะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม โปรตีน 1 กรัมจากจิ้งหรีด เมื่อเทียบกับเนื้อวัว จิ้งหรีดจะใช้อาหารน้อยกว่า 22 เท่า ใช้น้ำน้อยกว่าประมาณ  18 เท่า ใช้พื้นที่น้อยกว่า 10 เท่า และที่สำคัญที่สุดคือ การผลิตก๊าซเรือนกระจก ก๊าซมีเทน คาร์บอนมอนอกไซด์น้อยกว่า 15 เท่า ซึ่งช่วยโลกร้อนได้อีกด้วย”

เมนูเบอร์เกอร์จิ้งหรีด

เบอร์เกอร์ของ Bounce Burger มีส่วนผสมของจิ้งหรีดใน 2 ส่วนหลัก ได้แก่ แป้งบันที่ใช้ผงจิ้งหรีดอบแห้งผสมเข้าไป และเนื้อแพตตี้ที่ใช้จิ้งหรีดสดที่นำมาคั่ว และคัดเอาเฉพาะส่วนท้องมาบดรวมกับเนื้อวัว โดยมีเมนูซิกเนเจอร์ ‘Bounce Burger’ ที่เป็นเบอร์เกอร์เนื้อวัวผสมกับเนื้อจิ้งหรีด

นอกจากนี้ ยังมีเมนู ‘KA-PRAO BURGER’ ในหมวด Thai Signature ที่มีรสชาติจัดจ้านจากซอสกะเพรา ไข่ดาว ใบกะเพราทอด เหมาะสำหรับคนชอบอาหารรสเผ็ด

Bounce Burger นำเสนอทางเลือกใหม่ของเบอร์เกอร์ที่ใช้วัตถุดิบจากจิ้งหรีด ซึ่งนอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการผลิตโปรตีนจากเนื้อสัตว์อื่นๆ อย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนผ่านอาหารการกิน

Open: เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ปิดทุกวันจันทร์

Address: ซอยปรีดี พนมยงค์ 26

Facebook: Bounce Burger

Comment :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Related Reviews