การออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพที่ดี ไม่เพียงแต่มีผลทางกายเท่านั้น แต่ยังมีผลทางจิตใจและสภาพอารมณ์ดี เพื่อให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพต่อร่างกายและจิตใจ เราจำเป็นต้องทำได้อย่างถูกวิธี เพราะในแต่ละช่วงวัยมีความต้องการและลักษณะการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน

ออกกำลังกาย ช่วงอายุ 4 – 11 ปี

วัยนี้เป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยจะต้องเน้นหรือส่งเสริมการเคลื่อนไหวที่พัฒนากล้ามเนื้อ และระบบหายใจ อีกทั้งยังเป็นวัยที่ร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต (Growth Hormones)  รวมถึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักอีกด้วย เช่น การเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ฟุตบอล บาสเกตบอล เป็นต้น

ออกกำลังกาย ช่วงอายุ 12 – 17 ปี

เป็นวัยที่เรียกว่ากำลังเข้าสู่วัยรุ่น มีอัตราการเผาผลาญที่ดี ดังนั้นจะต้องเน้นสมรรถภาพของร่างกาย และมีความพร้อมที่จะสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล

ออกกำลังกาย ช่วงอายุ 18 – 35 ปี

กล้ามเนื้อและกระดูกเริ่มสึกหรอตามอายุบวกกับเริ่มมีการสะสมของไขมัน เนื่องจากอัตราการเผาผลาญที่ลดลง ดังนั้นจะต้องส่งเสริมการออกกำลังกายทุกรูปแบบ กิจกรรมที่ทำควรเน้นความหลากหลาย เช่น การเล่น โยคะ พีลาทิส หรือ Body weight เบาๆ

ออกกำลังกาย ช่วงอายุ 36 – 59 ปี

ร่างกายมีความต้องการในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เสื่อมถอย ควรเล่นกีฬาหรือออกกำลังที่เคยทำ แต่ลดความเร็วและความหนักลง เช่น ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน กายบริหาร วิ่งเหยาะๆ

ออกกำลังกาย ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป

การออกกำลังกายในวัยนี้มีข้อจำกัด ต้องยึดแนวทางการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกำลังกาย  กิจกรรมที่ออกกำลังควรเป็นแบบเบาๆ เช่น เดิน วิ่ง รำมวยจีน รำกระบอง กายบริหารประกอบดนตรี ไม่ควรออกกำลังกายที่ใช้แรงมากในระยะสั้นๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.paolohospital.com/th-TH/chokchai4/Article/Details/เทคนิค–ออกกำลังกาย–ตามช่วงอายุ 

https://www.bangkokbanksme.com/en/how-to-exercise-to-suit-each-age-range